กทพ. จัดการฝึกซ้อมการกู้ภัยและการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงบนทางพิเศษ

วันนี้ (๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐) เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ บริเวณทางเข้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขาภิบาล ๕-๑ ทางพิเศษฉลองรัช นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฏหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำการแทนในตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นประธานในการฝึกซ้อมการกู้ภัยและการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงบนทางพิเศษ ซึ่งการฝึกซ้อมฯในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน ๑ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงพยาบาลสายไหม สำนักงานเขตสายไหม บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจวัตถุอันตราย (HASLA) เข้าร่วมในการฝึกซ้อม

นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ ทำการแทนในตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การให้ความสำคัญในความปลอดภัยของผู้ใช้ทางพิเศษเป็นนโยบายหลักในการดำเนินงานของ กทพ. ซึ่งได้มุ่งเน้นดำเนินการมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาสายทางพิเศษให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ การติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนและป้ายแนะนำเส้นทางที่เอื้อต่อการขับขี่ที่ปลอดภัย และการฝึกซ้อมการกู้ภัยและการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงบนทางพิเศษในวันนี้ กทพ. จัดขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้ภัย การจัดการจราจรและขั้นตอนการประสานงานการสื่อสารให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงบนทางพิเศษ โดยมีการฝึกซ้อมเป็นประจำทุกปี ซึ่งนอกจากจะทำให้เจ้าหน้าที่มีความชำนาญในการปฏิบัติแล้วยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้ทางพิเศษได้เป็นอย่างดี สำหรับการฝึกซ้อมในวันนี้ กทพ. ได้ประสานงานและแจ้งสถานีวิทยุ จส.๑๐๐ สวพ.FM ๙๑ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทราบเกี่ยวกับการฝึกซ้อม พร้อมทั้งขึ้นข้อความประชาสัมพันธ์บนป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) แจ้งให้ผู้ใช้ทางและประชาชนในบริเวณใกล้เคียงทราบเกี่ยวกับการฝึกซ้อม เพื่อป้องกันการตื่นตระหนก ส่วนขั้นตอนการฝึกซ้อมทีมสร้างสถานการณ์ จะสร้างสถานการณ์จำลองในพื้นที่ฝึกซ้อม โดยมีรถกระบะขับขี่เสียหลักเฉี่ยวชนรถบรรทุก ๑๐ ล้อบรรทุกสารกัดกร่อน (Hydrochloric acid) UN.1789 ทำให้รถบรรทุกคลอรีนเกิดวาวล์แตกได้รับความเสียหาย มีสารเคมีไฮโดรคลอริกแอสิก ซึ่งเป็นสารกัดกร่อนรั่วไหลและเกิดกลุ่มควันที่รถกระบะ ส่วนผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถกระบะได้รับบาดเจ็บจำนวน ๔ ราย และบาดเจ็บสาหัส ๑ ราย หลังเกิดเหตุผู้ขับขี่รถบรรทุกสารเคมีไฮโดรคลอริกแอสิก ได้โทรแจ้งหน่วยเก็บกู้สารเคมีของบริษัทและพนักงานด่านฯ พบเห็นเหตุการณ์จึงได้โทรแจ้งให้พนักงานสื่อสารประจำศูนย์ควบคุมทางพิเศษฉลองรัช หมายเลข ๐๒-๓๑๙-๗๑๖๖-๗ หรือ call center หมายเลข 1543 รับทราบ

พนักงานสื่อสารได้แจ้งเหตุให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษ รถจักรยานยนต์ดับเพลิง พนักงานกู้ภัย พนักงานจัดการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องไปที่เกิดเหตุและประสานรถพยาบาลในพื้นที่ไปที่เกิดเหตุ พนักงานกู้ภัยและพนักงานจัดการจราจรเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบเหตุและปิดกั้นพื้นที่พร้อมทั้งแจ้งรหัสสารเคมี UN.1789 ให้สื่อสารทราบ พนักงานกู้ภัยและพนักงานจัดการจราจร ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น พนักงานสื่อสารเช็ครหัสสารเคมีพร้อมแจ้งคุณสมบัติของสารให้กับกู้ภัย พนักงานจราจร หน่วยปฏิบัติการพิเศษและได้แจ้งพนักงานด่านฯ สุขาภิบาล ๕-๑ อพยพออกจากที่เกิดเหตุและแจ้งผู้บังคับบัญชา รถพยาบาลถึงที่เกิดเหตุ ทำการปฐมพยาบาลคัดแยกผู้ได้รับบาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาล หน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมรถจักรยานยนต์ดับเพลิง รถดับเพลิงของการท่าเรือ ทีมกู้ภัยฉุกเฉินของ HASLA ถึงที่เกิดเหตุพร้อมจัดทีมเข้าทำการระงับเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการจราจรที่เกิดเหตุ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนำคนเจ็บที่ติดอยู่ในรถออกจากรถ พร้อมทั้งอุดจุดที่รั่วไหล หน่วยปฏิบัติการพิเศษและทีมกู้ภัยฉุกเฉินของ HASLA ปิดการจราจรเพื่อทำการเก็บกู้สารเคมีที่เหลือให้เสร็จเรียบร้อย

“การฝึกซ้อมในครั้งนี้เป็นการทดสอบการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุ และบูรณาการของเครื่องมือและอุปกรณ์ กำลังพลจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับขั้นตอนการปฏิบัติงานร่วมกัน ประเมินผลการฝึกซ้อม เพื่อหามาตราการในการแก้ไขและสรุปผลการฝึกซ้อม เพื่อจัดทำคู่มือและวิธีปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆที่ร่วมกันฝึกซ้อม” นายสุทธิศักดิ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด

ข่าว โดย กองประชาสัมพันธ์ สำนักผู้ว่าการ
ภาพข่าว โดย กองข้อมูลข่าวสาร สำนักผู้ว่าการ

Comments are closed.