กทพ. จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนบนทางพิเศษ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์พร้อมยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษบูรพาวิถี

วันนี้ (๑๐ เมษายน ๒๕๖๐) เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางแก้ว ๑ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก พลเอกวิวรรธน์ สุชาติ ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอำนวยความสะดวก และปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม โดยมี นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการ ฝ่ายปฏิบัติการ กทพ. พร้อมผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่ง กทพ. ได้จัดหน่วยบริการประชาชน จำนวน ๖ แห่ง ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ นอกจากนี้ กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางของพิเศษทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๐.๐๑ น. จนถึง วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๒๔.๐๐ น.

นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการ ฝ่ายปฏิบัติการ กทพ. เปิดเผยว่า เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน กทพ. จึงได้กำหนดจัดโครงการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกำหนดดังนี้

๑. จัดหน่วยบริการประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ
โดย กทพ. จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนบนทางพิเศษ เพื่อให้บริการฟรีในการตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้น เช่น เติมลมยาง น้ำ น้ำกลั่น รวมทั้งบริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น ลูกอม ยาดมสมุนไพร แผนที่การเดินทาง เอกสารประชาสัมพันธ์ เป็นต้น โดยได้จัดหน่วยบริการประชาชน จำนวน ๖ แห่ง ดังนี้
– ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๔ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๗.๐๐ ถึง ๒๑.๐๐ น. ที่ด่านฯ บางปะอิน (ขาออก) ด่านฯ บางนา และด่านฯ บางแก้ว ๑
– ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๗.๐๐ ถึง ๒๑.๐๐ น. ที่ด่านฯ จตุโชติ ด่านฯ บางปะอิน (ขาเข้า) และด่านฯ ฉิมพลี (ขาเข้า)

๒. การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
– จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานจัดการจราจร อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมในบริเวณที่เป็นเส้นทางเดินทาง เข้า-ออก กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทางพิเศษทุกสายทาง ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
– จัดพนักงานเก็บค่าผ่านทางพิเศษเพิ่มเติม เพื่อให้บริการจัดเก็บค่าผ่านทางฯ ทุกช่องทาง โดยเฉพาะด่านฯ ขาเข้าและขาออกเมือง
– จัดพนักงานสื่อสารประจำศูนย์ควบคุมทางพิเศษทุกสายทาง โดยใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV เฝ้าดูสภาพการจราจร รถเสีย และอุบัติเหตุบนทางพิเศษตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งควบคุมสั่งการและประชาสัมพันธ์สภาพการจราจรผ่านป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) และวิทยุจราจร (จส.๑๐๐, สวพ.๙๑) จัดพนักงาน EXAT Call Center ให้บริการสอบถามข้อมูลและสภาพการจราจรบนทางพิเศษตลอด ๒๔ ชั่วโมง

๓. การอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย
– จัดหน่วยเฉพาะกิจ, หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ออกตรวจตราและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่างๆ บนทางพิเศษโดยเร็วที่สุด
– จัดรถกู้ภัยตรวจตราดูแลสิ่งผิดปกติบนทางพิเศษ เพื่อรักษาความปลอดภัยและมีรถยกประจำจุด ตลอดเส้นทาง ๒๔ ชั่วโมง
– จัดพนักงานจัดการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนตั้งจุดตรวจสอบวินัยจราจร โดยมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ตรวจจับความเร็วด้วยเครื่องอัตโนมัติตลอด ๒๔ ชั่วโมง ตรวจสอบกวดขันรถบรรทุกน้ำหนักเกินและรถบรรทุกขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายห้ามเดินบนทางพิเศษ (๖๓ ชนิต) รวมถึงตรวจสอบกวดขันรถกระบะที่มีคนนั่งท้ายกระบะโดยไม่มีหลังคาคลุมหรือผูกมัดสิ่งของให้มั่นคงแข็งแรง อาจก่อให้เกิดอันตรายบนทางพิเศษ
– ตรวจสอบและปรับปรุงผิวถนนให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ติดตั้งเส้นชะลอความเร็วบริเวณจุดที่อันตราย ติดตั้งอุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทกบริเวณทางแยก และติดตั้งอุปกรณ์กันชนบริเวณทางแยก

 

นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยด้วยการแจกเอกสารคู่มือขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการฯ รวมถึง รณรงค์โครงการ Expressway Smart Driver “เพิ่มน้ำใจ ลดอุบัติเหตุ บนทางพิเศษ” โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะลดลงและนอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา กทพ. ได้มอบรถจักรยานยนต์ จำนวน ๓๕ คัน แก่สถานีตำรวจทางด่วน ๑ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกและการจราจร แก่ผู้ใช้ทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้อีกด้วย ผู้ใช้บริการทางพิเศษสามารถสอบถามข้อมูลการใช้ทางพิเศษ เช่น ข้อมูลสภาพการจราจรบนทางพิเศษระยะทาง และอัตราค่าผ่านทาง ฯลฯ ได้ทาง www.exat.co.th ด้วยโปรแกรม SIMAP (Smart Interactive Map) และระบบรายงานสภาพการจราจรบนทางพิเศษบนโทรศัพท์มือถือ (Smart phone) ผ่าน Application “EXAT ITS” โดยสามารถ download ได้จาก App Store ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ (IOS , Android ) ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการวางแผนการเดินทางอีกด้วย

“การยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษบูรพาวิถี จะช่วยให้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวก รวดเร็วในการใช้บริการทางพิเศษเพื่อเดินทางไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม กทพ. ขอฝากให้ผู้ใช้บริการทางพิเศษทุกท่านโปรดตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะเดินทาง และประการสำคัญที่สุดคือ “ง่วงอย่าขับ” “เมาไม่ขับ” “ขับไม่โทร” และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งตลอดการเดินทาง เพื่อความปลอดภัย ของท่านและเพื่อนร่วมทาง อย่างไรก็ตามกรณีที่ท่านไม่ได้รับความสะดวกหรือมีเหตุขัดข้องบนทางพิเศษ สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1543 ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่บนทางพิเศษทุกระยะ ๕๐๐ – ๑,๐๐๐ เมตร แจ้งเหตุได้เช่นกัน

 

 

Comments are closed.