กทพ. พร้อม รมว.กระทรวงคมนาคม เดินหน้าโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ลงพื้นที่เตรียมรายงานความคืบหน้าให้ ครม. ทราบในการประชุม ครม. สัญจร ภูเก็ต 3 พ.ย. นี้

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เผยรายละเอียดของโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ว่าโครงการดังกล่าว แต่เดิมเป็นความริเริ่มของเทศบาลเมืองป่าตองมาตั้งแต่ปี 2552 โดยมีการศึกษา ความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ พบว่า มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ แต่มีมูลค่าการลงทุนสูง ทางเทศบาลป่าตอง ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ต่อมาในปี 2555 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดภูเก็ต คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมโดย กทพ. ดำเนินการศึกษาและออกแบบโครงการ และ ในปีต่อมาจึงได้เริ่มดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการและจัดทำรายงานการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน Public Private Partnership (PPP) โดยในปี 2561 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้เห็นชอบรายงาน EIA รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เห็นชอบรายงาน PPP กทพ. จึงดำเนินการส่งรายงาน PPP ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา พร้อมทำหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้เพื่อดำเนินโครงการ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 กทพ. ได้รับความอนุเคราะห์จากอธิบดีกรมป่าไม้ให้เข้าร่วมประชุมหารือ ซึ่งผลการประชุมมีมติว่า กรมป่าไม้จะเร่งรัดการประสานงานกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้เร็วขึ้นและรับดำเนินการอนุญาตการใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการอย่างช้าไม่เกินเดือนมกราคม 2564 ทั้งนี้ หากเป็นไปตามแผน กทพ. จะเสนอโครงการฯ ให้ สคร. เห็นชอบในเดือนมกราคม 2564 โดยคาดว่าคณะรัฐมนตรีจะอนุมัติหลักการของโครงการในเดือนพฤษภาคม 2564 และเริ่มดำเนินการคัดเลือกผู้รับสัมปทานให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2564

“โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จะเป็นโครงการแรกของ กทพ. ที่ดำเนินโครงการในต่างจังหวัด โดยมีลักษณะพิเศษคือ การเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขาความยาว 1.85 กิโลเมตร และจะเป็นทางพิเศษสายแรกที่อนุญาตให้รถจักรยานยนต์ขึ้นใช้ได้ ทั้งนี้ หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2570 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันการเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังชายหาดป่าตองต้องใช้เส้นทางข้ามภูเขานาคเกิด เส้นทางมีความคดเคี้ยว ลาดชัน ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุในเส้นทางดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ทางพิเศษสายนี้นอกจากจะเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางแล้ว ยังจะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้เป็นอย่างดี”

“ผมอยากจะฝากขอบพระคุณ ท่านวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กรุณาช่วยผลักดันโครงการฯ นี้ ทำให้มีความคืบหน้าในการประสานงานกับกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนทำให้การดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ รวดเร็วกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้มาก ซึ่งเป็นผลดีต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพราะยิ่งดำเนินการก่อสร้างและเปิดใช้ได้เร็วเท่าไร ปัญหาอุบัติเหตุและการสูญเสียก็จะลดลงได้เร็วเท่านั้น” นายสุรเชษฐ์ กล่าวในท้ายที่สุด

กองประชาสัมพันธ์ สำนักผู้ว่าการ

Comments are closed.