แถลงการณ์ สร.กทพ. เรื่องข้อพิพาทค่าผ่านทาง ปี ๔๖ (ฉบับที่ ๓)

กทพ. ตกเป็นเหยื่อคำใหญ่ ๓ (ตีแผ่ มติบอร์ด)

มติบอร์ดเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ มีผลอย่างไร

ประชาชนทั้งหลาย และ ชาว กทพ. ลองพิจารณาดูว่า

จากกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ร่วมกับพนักงานคัดค้านมติบอร์ด ที่ให้ กทพ. ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ กรณีการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ ๒ ปี ๒๕๔๖ โดยไม่นำเข้าสู่กระบวนการศาลปกครองกลาง อันจะทำให้เกิดความเสียหายตามมาอีกจำนวนมากนั้น

ปฐมเหตุยืดยาวจะไม่ขอกล่าว แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า กทพ. เคยแจ้ง BECL แล้วว่าไม่สามารถปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการได้ เพราะ กทพ. เห็นว่าคำวินิฉัยยังไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับกับข้อพิพาท ไม่อยู่ในขอบเขตแห่งสัญญาอนุญาโตตุลาการ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศิลธรรมอันดีของประชาชน และยังได้ส่งคำโต้แย้งคำชี้ขาดให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกด้วย เป็นปฏิบัติการที่เข้มแข็งมากควรค่าแก่เสียงปรบมือดังๆ

แต่ในการประชุมเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๙ ณ กรมบัญชีกลาง กทพ. กลับไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่า คำชี้ขาดไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับอย่างไร ไม่อยู่ในขอบเขตอย่างไร ขัดต่อความสงบเรียบร้อยอย่างไร ยังคงยืนแนวต่อสู้ตามแนวทางในชั้นอนุญาโตตุลาการซึ่ง กทพ. พ่ายแพ้มาแล้วอยู่นั้นเอง

ในการกำหนดค่าผ่านทาง กทพ. ทำเป็นประกาศกระทรวงคมนาคม ฉบับลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ ซึ่งยังไม่ได้เพิกถอน ประกาศกระทรวงย่อมมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ดังนั้น ไม่ว่าคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการที่ไม่สอดคล้องนี้จะเป็น การวินิจฉัยที่ฝ่าฝืนกฎหรือขั้นตอนตามกฎหมายหรือไม่ จะเป็นเหตุอันควรที่จะไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการได้หรือไม่ก็ตามที ประเด็นนี้ไม่ควรถูกละเลยในการนำมาต่อสู้ในชั้นพิจารณาคำชี้ขาด และ อันที่จริงก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้

ทำไม ? ทำไม ? ทำไม ?

นี้คือเหตุที่นำไปสู่คำชี้ขาด ที่ไม่อาจปฏิเสธได้หรือ ?

เมื่อมีคำชี้ขาดแล้ว หาก กทพ. ยังไม่เห็นด้วย (กรณีมองเห็นความเสียหายในอนาคต) กทพ. จะไม่มี

ประเด็นนำเข้าคัดค้านต่อศาลปกครองกลางเลยหรือ ? เป็นไปได้หรือที่มองไม่เห็นความเสียหาย ?

ทั้ง ๆ ที่มีเสียงทักท้วงตั้งแต่ยังไม่ลงมติแล้ว

อะไรคือเหตุผล ? จะหาความกระจ่างที่เริ่มจากจุดนี้ ได้อย่างไร ?

จะย้อนกลับไปดูรายงานการประชุมเก่า ๆ กันดีหรือไม่ ?

ผู้รู้กรุณาตอบที

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

Comments are closed.